การงาน

หมวดวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี

การเชื่อมโลหะ

านเชื่อมและโลหะแผ่น

รอยต่อและชนิดของรอยต่อ  ตามมาตรฐาน AWS
รอยต่อ  คือ  การประสานหรือการทำการต่อชิ้นส่วนสองชิ้นหรือมากกว่านั้นซึ่งอาจจะกระทำได้
โดยการยึดด้วยสกรูหรือการเชื่อม   สามารถแบ่งได้ 5 ชนิด คือ
1.รอยต่อชน  เป็นการนำขอบชิ้นงานทั้งสองชิ้นมาวางให้ขอบชนกันซึ่งจะมีการเว้นช่องว่าง
หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความหนาของงาน  ดังแสดงในรูป


รูปแสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อชน
                       

2.รอยต่อเกย  ลักษณะการต่อเป็นการนำชิ้นงานสองชิ้นงานซ้อนเกยกันซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้อง
เสียเวลาในการเตรียมงานมากการต่อเกยที่ดีนั้น   ควรให้ชิ้นงานทั้งสองชิ้นงานซ้อนกันแนบสนิท
ตลอดความยาว    ดังแสดงในรูป



รูปแสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อเกย

          3. รอยต่อขอบ โดยทั่วไปออกแบบสำหรับงานเชื่อมโลหะที่บางๆ  และไม่นิยมเติมลวดเชื่อม
การต่องานลักษณะนี้สามารถกระทำได้ง่ายรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก   ดังแสดงในรูป


รูปแสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อขอบ
                                                
         4.รอยต่อมุม การต่อมุมนี้มีลักษณะการต่อคล้าย ๆ กับการเชื่อมรอยต่อตัวทีแต่แตกต่างกัน
ตรงรอยต่อมุมนั้นวางตั้งฉากกันบริเวณของขอบชิ้นงานทั้งสอง  การเชื่อมต่อมุมนี้สามารถเชื่อมได้
ทั้งรอยต่อมุมภายในและรอยต่อมุมภายนอก ดังแสดงในรูป



รูปแสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อมุม
                                                 
         5. รอยต่อตัวที  ชิ้นงานตั้งฉากกันบนความกว้างของงานอีกแผ่นหนึ่งการต่อลักษณะนี้
จะต้องมีการเติมลวดเชื่อมเพื่อให้ชิ้นงานเกิดความแข็งแรงจึงนิยมใช้กันมากในการเชื่อม
ประกอบโครงสร้างของการสร้างอาคาร  ดังแสดงในรูป


      รูปแสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อตัวที
                                                        

ตำแหน่งท่าเชื่อมและลักษณะรอยต่องานเชื่อม

ในการเชื่อมไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมแก๊ส หรือเชื่อมไฟฟ้าท่าเชื่อมที่สามารถทำการเชื่อมได้ง่าย 
และมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นคือ การเชื่อมท่าราบ แต่ในสภาวะจริงการปฏิบัติงาน
ไม่สามารถเลือกท่าเชื่อมที่ถนัดได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพของงานที่ทำอยู่ สำหรับท่าเชื่อมหรือ
ตำแหน่งการเชื่อมทั้งเชื่อมแก๊สและเชื่อมไฟฟ้า นั้น  แบ่งลักษณะท่าเชื่อมได้  
4  ท่าเชื่อม
ตามมาตรฐานอเมริกา (
AWS) 
1.การเชื่อมท่าราบ 
เป็นท่าที่เชื่อมง่ายเพราะสามารถควบคุมบ่อหลอมละลายได้ง่าย  ดังแสดงในรูป


รูปแสดงการเชื่อมท่าราบ

   
2. การเชื่อมท่าขนานนอน
 เป็นท่าที่เหมาะสำหรับผู้ฝึกเชื่อมใหม่ ๆ ต่อจากการเชื่อมท่าราบ  ดังแสดงในรูป
รูปแสดงการเชื่อมท่าขนานนอน
                                                   
3. การเชื่อมท่าตั้ง
    การเชื่อมท่านี้รอยเชื่อมจะอยู่ในแนวดิ่งซึ่งมีอยู่ด้วยกัน วิธี  
คือการเชื่อมจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน เรียกว่า การเชื่อมท่าตั้ง(เชื่อมขึ้น)การเชื่อมจากข้างบนลงมา
ข้างล่าง เรียกว่า การเชื่อมท่าตั้ง
(เชื่อมลง) ดังแสดงในรูป
                                      
รูปแสดงการเชื่อมท่าตัั้ง

4.  การเชื่อมท่าเหนือศีรษะ
 เป็นการเชื่อมที่แนวเชื่อมอยู่ด้านล่างของรอยต่อและชุดหัวเชื่อมจะอยู่ใต้ชิ้นงานที่จะเชื่อม
เป็นท่าเชื่อมที่ยากที่สุดที่จะทำให้เกิดการซึมลึกที่ดีได้  ดังแสดงในรูป
                
รูปแสดงการเชื่อมท่าเหนือศีรษะ












การเริ่มต้นอาร์ก
การอาร์กสำหรับงานเชื่อมด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์  โดยทั่วไปนิยมใช้กัน  2 วิธี คือ
1.  แบบแตะสัมผัส (Tapping  Method) ผู้ที่มีความชำนาญแล้วจะใช้วิธีนี้
เพราะวิธีการเริ่มต้นอาร์กแบบนี้สามารถจะกระทำได้โดยตำแหน่งที่เราต้องการเชื่อมนั่นคือ 
ใช้ลวดเชื่อมแตะลงบนผิวหน้าของชิ้นงานเพียงเบา ๆ ตรงตำแหน่งที่เราต้องการแล้วยกขึ้น
เพื่อให้เกิดการอาร์กจากนั้นจึงกดลวดเชื่อมลงมาเพื่อหาระยะอาร์กที่ถูกต้อง ดังแสดงในรูป


รูปแสดงเทคนิควิธีการเริ่มต้นอาร์กแบบแตะสัมผัส
      
2.  แบบเขี่ยสัมผัส (Scratch Method) ผู้เริ่มต้นฝึกงานเชื่อมควรใช้วิธีนี้เพราะการเขี่ย
แบบนี้โอกาสลวดเชื่อมดูดติดกับชิ้นงานมีน้อยเพราะเป็นการลากเขี่ยแล้วยกขึ้นเพื่อให้เกิด
การอาร์ก หลังจากนั้นจึงรักษาระยะอาร์กให้ถูกต้องและคงที่ การเริ่มต้นอาร์กแบบนี้ทำให้
การอาร์กอยู่ไกลจากตำแหน่งที่เริ่มต้น บางครั้งอาจเกิดหลอมละลายของลวดเชื่อมหยดลง
ระหว่างทาง  หรืออาจหาจุด ต้นเชื่อมไม่พบทำให้แนวเชื่อมไม่สมบูรณ์ได้ ดังแสดงในรูป

รูปแสดงเทคนิควิธีการเริ่มต้นอาร์กแบบเขี่ยสัมผัส


ข้อมูลอ้างอิง :  http://welding-sheet-metal.blogspot.com/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทะเล (Sea)